เรียนต่อปริญญาที่สิงคโปร์
▸ เรียนภาษาที่สิงคโปร์
▸ เรียนปริญญาตรีที่สิงคโปร์
▸ เรียนปริญญาโทที่สิงคโปร์
สนใจ เรียนต่อสิงคโปร์ พร้อมทุนส่วนลด ขึ้นกับ หลักสูตรและมหาวิทยาลัย สอบถามทักมาคุยกัน
★ ขั้นตอน การเรียน ปริญญาสิงคโปร์ แบบเร่งรัด
เวลาเรียน: เรียนเพียง 6-12 เดือน* นี่คือช่วงเวลาที่เราทำตัวเตรียมวิชาการก่อนเข้าปริญญาตรี
สำคัญ : ช่วยเตรียมพร้อมให้พร้อมเรื่องวิชาการของเราเข้ามหาวิทยาลัยได้ดี
Diploma : หลักสูตร Diploma สิงคโปร์
เวลาเรียน : Diploma ประมาณ 12 เดือน มันเน้นทักษะที่จะเอาไปใช้เรียนต่อปริญญา
สำคัญ : เสร็จ Diploma ไปแล้วถือว่าพร้อมเรียนต่อปริญญาได้เลย!
Bachelor's Degree : ปริญญาตรีสิงคโปร์
เวลาเรียน : Top-up Bachelor's Degree ให้คนที่จบ Diploma อีก 1 ปี
สำคัญ : มีโอกาสศึกษาปริญญาตรีตลอดหลักสูตร 2 ปี
Master Degree : ปริญญาโท สิงคโปร์
เวลาเรียน : 1 ปี
สำคัญ : จะได้ปริญญาโทคุณภาพสูงจากมหาวิทยาลัยประเทศอังกฤษ หรือ ออสเตรเลียที่ได้รับการรับรอง
แต่ในขณะเดียวกัน การสมัครเข้าเรียนมหาวิทยาลัย รัฐบาลก็ถือว่า ค่อนข้างยากสำหรับนักศึกษาต่างชาติ เพราะจำนวนที่นั่งมีจำกัด และการแข่งขันสูงมากแม้แต่ นักเรียนสิงคโปร์เอง ผู้สมัครมักต้องมีผลการเรียนที่โดดเด่นจริง ๆ จึงจะมีโอกาสผ่านการคัดเลือก
สำหรับใครที่มองหาทางเลือกที่เข้าถึงง่ายกว่า แต่ยังต้องการคุณภาพระดับนานาชาติ มหาวิทยาลัยเอกชนในสิงคโปร์ เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ทำให้หลักสูตรที่เปิดสอนมีมาตรฐานเดียวกับต้นทาง ทั้งด้านเนื้อหา ระบบการเรียน และการประเมินผล หลักสูตรได้รับการยอมรับ เพราะส่วนใหญ่เป็นพันธมิตรกับมหาวิทยาลัยจากอังกฤษและออสเตรเลีย
★ อยากทราบคณะ / สาขาที่ต้องการ คลิก ... ดูโบรชัวร์เพื่อสแกนหา
▸ Coventry University
▸ Edinburgh Napier University
▸ Hertfordshire University
▸ Massey University
▸ Newcastle University
★ ข้อจำกัดเมื่อสมัครเรียนต่อมหาวิทยาลัยรัฐบาลสิงคโปร์
- เกณฑ์การการสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยรัฐบาลค่อนข้างสูง ส่งผลให้นักเรียนไทยและต่างชาติ ไม่ได้การตอบรับเข้าเรียน
- ค่าทีพักค่อนข้างสูงอาจจะพอๆกับทางออสเตรเลียและยุโรป เนื่องจากสิงคโปร์เป็นเกาะ ทำให้พื้นที่พักอาศัยมีจำกัด
- นักเรียนอยู่ภายในกฏหมายที่เข้มงวดที่สิงคโปร์ เช่น กฏห้ามสูบบุหรี่ และ สูบบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฏหมายมีผลการการพักอาศัยที่สิงคโปร์
A : โดยส่วนใหญ่ใช้เวลาสมัครเรียนประมาณ 6 เดือน - 1 ปี ทั้งนี้มหาวิทยาลัยของรัฐบาลจะใช้เวลามากกว่าสถาบันเอกชนที่เปิดสอนหลักสูตรปริญญาของต่างประเทศส่วนจะใช้เวลาเรียนมากหรือน้อยขนาดไหนขึ้นอยู่กับระดับภาษาอังกฤษของนักเรียนด้วย
การรับเข้าเรียนของสถาบันเอกชนขึ้นอยู่กับว่านักเรียนสมัครเรียนกับมหาวิทยาลัยไหน เพราะนักเรียนต้องมีคุณสมบัติตรงตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด
Q : การรับเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยสิงคโปร์มีกี่รอบต่อปี ?
A : มหาวิทยาลัยของรัฐบาลสิงคโปร์โดยมากจะเปิดรับในเทอมที่ 1 เพียงรอบเดียว ในแต่ละปี ในขณะที่ มหาวิทยาลัยเอกชนสิงคโปร์ หรือสถาบันเอกชนของสิงคโปร์อาจเปิดรับ 2-3 ครั้งต่อปีขึ้นอยู่กับคณะ/สาขา
Q : ค่าเล่าเรียนที่มหาวิทยาลัยสิงคโปร์ต่างกันมากไหม ?
A : ค่าธรรมเนียมการศึกษาของแต่ละสถาบัน ขึ้นอยู่กับนโยบายของมหาวิทยาลัยรวมถึงสาขาวิชาที่เลือกเรียน
▸ ค่าเล่าเรียนต่อปี มหาวิทยาลัยของรัฐบาลสิงคโปร์ ประมาณ $20,000 – $35,000
▸ ค่าเล่าเรียนต่อปี มหาวิทยาลัยหรือสถาบันเอกชนสิงคโปร์ ประมาณ $25,000 – $40,000
★ มหาวิทยาลัยรัฐบาลสิงคโปร์ Vs มหาวิทยาลัยเอกชนสิงคโปร์
ทางเลือกที่ ① : น้องๆที่เข้าเรียนมหาวิทยาลัยรัฐบาลสิงคโปร์มักจบจากโรงเรียนรัฐบาลหรือเอกชนที่สิงคโปร์ และมีคุณสมบัติตรงตามที่มหาวิทยาลัยสิงคโปร์ต้องการ นั่นคือเกรดเฉลี่ยและผลภาษาอังกฤษดีมาก นักเรียนยังต้องสอบผ่านการสอบคัดเลือกโดยใช้ข้อสอบกลางของมหาวิทยาลัยรัฐบาลสิงคโปร์ นักเรียนต้องเตรียมตัวให้พร้อมด้านวิชาการและภาษาอังกฤษเพื่อปรับพื้นฐานให้เทียบเท่านักเรียนสิงคโปร์
ทางเลือกที่ ② : นักเรียนสามารถเลือกเรียนหลักสูตรของมหาวิทยาลัยนานาชาติที่เปิดสอนในสถาบันเอกชนของสิงคโปร์
ระยะเวลาเรียนของสถาบันเอกชน : สถาบันเอกชนโดยทั่วไปใช้เวลาเรียนปริญญาตรีเพียง 2 ปี และปริญญาโท 1 ปี โดยเรียนทั้งหมด 3 เทอม / ปี ไม่มีซัมเมอร์ แต่จะมีช่วงปิดเทอมสั้นๆระหว่างเทอม หากเปรียบเทียบกับมหาวิทยาลัยในออสเตรเลีย อังกฤษ อเมริกา จะใช้เวลาเรียนปริญญาตรี 3 ปี (1 ปีการศึกษามี 2 เทอมเท่านั้น) และปริญญาโท 1.5 - 2 ปี โดยปกตินักเรียนไทยมักจะใช้เวลา 2.5 - 3.5 ปี ในการเรียนปริญญาตรีที่สิงคโปร์ เพราะอาจต้องเรียนปรับพื้นฐานก่อนเริ่มเรียน และ อาจต้องเรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษก่อนเข้าหลักสูตรปริญญาตรี
1. ผลภาษาอังกฤษอยู่ในเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนด
2. จบจากคณะ / สาขา ที่ระบุในเกณฑ์การรับ
3. เกรดที่จบมาไม่น้อยกว่าที่มหาวิทยาลัยกำหนด
$ ค่าใช้จ่ายในการใช้ชีวิต
▸ ค่าที่พักที่สิงคโปร์ $12,000-18,000 / ปี *
▸ ค่าอาหาร $6,000 - 7,000 / ปี
▸ ค่าอุปกรณ์การเรียน $100 / ปี
▸ ค่าเดินทาง $1,200 / ปี
*** อัตราแลกเปลี่ยน 1 SGD = ประมาณ 26 บาท
สำหรับผู้ที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลาย หรือ เทียบเท่า การเริ่มต้นคือการเลือกมหาวิทยาลัย ที่เหมาะกับเป้าหมายของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น Kaplan, PSB Academy, MDIS หรือ SIM ซึ่งแต่ละแห่งมีหลักสูตรที่หลากหลาย ทั้งสายธุรกิจ วิศวกรรม หรือสื่อสารมวลชน
เมื่อเลือกได้แล้ว ขั้นต่อไปคือ การตรวจสอบคุณสมบัติพื้นฐานที่จำเป็น เช่น ใบแสดงผลการเรียน ผลสอบภาษาอังกฤษสำคัญอย่าง IELTS รวมถึงสำเนาพาสปอร์ตและรูปถ่าย หลังจากเตรียมเอกสารครบ สามารถส่งใบสมัครผ่านระบบออนไลน์ได้ทันที ทำให้ขั้นตอนนี้ค่อนข้างสะดวก
หลังจากนั้น เพียงรอหนังสือตอบรับจากทางมหาวิทยาลัย บางสาขาอาจมีการสัมภาษณ์หรือสอบวัดระดับภาษา เมื่อได้รับ Offer Letter แล้ว ผู้สมัครจะต้องชำระค่ามัดจำเพื่อยืนยันสิทธิ์ ก่อนที่สถาบันจะช่วยดำเนินการยื่นขอ Student Pass กับทาง ICA ให้ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ก็เตรียมตัวเดินทางไปเริ่มเรียนได้อย่างสบายใจ
สำหรับคนวัยทำงานที่ต้องการต่อยอดความรู้และเพิ่มโอกาสในสายอาชีพ การเรียนต่อระดับปริญญาโทในสิงคโปร์ถือเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า สถาบันอย่าง James Cook University (JCU), Kaplan, PSB Academy และ MDIS ล้วนมีหลักสูตรที่ตอบโจทย์ทั้งด้านการบริหาร การตลาด เทคโนโลยี หรือจิตวิทยา
กระบวนการเริ่มต้นคล้ายกับระดับปริญญาตรี แต่ต้องใช้เอกสารมากขึ้น เช่น ใบปริญญาตรี Transcript ภาษาอังกฤษที่เป็นทางการ ผลสอบภาษาอังกฤษ ประสบการณ์ทำงาน เมื่อส่งใบสมัครออนไลน์แล้ว ขั้นตอนต่อมาก็คล้ายกันคือรอการประเมินและรับ Offer Letter
เมื่อได้รับการตอบรับ ผู้สมัครจะต้องชำระค่ามัดจำเพื่อยืนยันที่นั่ง จากนั้นมหาวิทยาลัยจะช่วยดำเนินการด้าน Student Pass เช่นเดียวกับการสมัครระดับปริญญาตรี
▸ Kaplan Higher Education – Singapore
▸ James Cook University – Singapore
▸ PSB Academy - Singapore
▸ MDIS - Singapore
* ดำเนินการสมัครได้ ตามระยะเวลาที่เหมาะสมและผู้สมัครมีคุณสมบัติด้านเกรดและภาษาที่ผ่านเกณฑ์
★ มหาวิทยาลัยรัฐบาลของสิงคโปร์ เด่น
▸ Nanyang University of Singapore (NUS)
▸ Nanyang Technological of University (NTU)
▸ Singapore Management University (SMU)
▸ Singapore University of Technology and Design (SUTD)
* ไม่สามารถดำเนินการสมัครมหาวิทยาลัยรัฐบาลได้ ต้องสมัครตรงเอง